ไอซีทีเตือนภัย
แฮกเกอร์ล้วงอีเมล์
ไฮซีทีเผยมีผู้แจ้งถูกเจาะข้อมูลอีเมล์ 10 กว่าราย ปลอมตัวเป็นเจ้าของอีเมล์หวังหลอกลวงให้ส่งเงิน ระบุตรวจสอบลำบาก แต่หากจับได้มีความผิดเข้าข่ายมาตรา 5 และ 7 ใน พ.ร.บ.ว่าด้วยการ
กระทำความผิดทางคอมพิวเตอร์ฯ มีโทษทั้งจำทั้งปรับ
นายวินัย อยู่สบาย ผู้อำนวยการสำนักกำกับการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) กล่าวว่า ขณะนี้มีผู้ใช้อีเมล์หรือจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ เช่น ฮอทเมล์และยาฮู เป็นต้น แจ้งเรื่องร้องเรียนเข้ามายังกระทรวงไอซีทีประมาณ 10 ราย ซึ่งมีปัญหาในลักษณะเดียวกันคือ ถูกแฮกเกอร์หรือนักเจาะข้อมูลในอีเมล์ปลอมแปลงตัวเป็นเจ้าของอีเมล์นั้น แล้วเขียนข้อความว่ากำลังความเดือดร้อนเรื่องเงินอย่างหนัก ส่งไปยังรายชื่ออีเมล์ที่เรารู้จักหรือติดต่ออยู่นั้น เพื่อหลอกลวงให้ส่งเงินไปช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน โดยมีการแก้ไขรหัสผ่านเพื่อไม่ให้ผู้เป็น
เจ้าของอีเมล์เข้าใช้งานได้อีก
นายวินัยกล่าวว่า ส่วนใหญ่เป็นการกลั่นแกล้งจากเพื่อนหรือบุคคลใกล้ชิดที่รู้รหัสผ่านอีเมล์ หรือ
ขโมยรหัสผ่านซึ่งเป็นปัญหาที่เกิดในประเทศไทย ส่วนใหญ่เป็นอีเมล์สาธารณะ โดยมีรูปแบบเข้าไปเปลี่ยนรหสัผ่านโดยที่เจ้าของไม่สามารถเข้าอีเมล์ของตัวเองได้ ทั้งนี้จากการใช้อีเมล์แล้วมีผู้มาเจาะ
ข้อมูลนั้นเป็นเรื่องที่ตรวจสอบยาก แต่ก็สามารถดำเนินการเอาความผิดต่อผู้ที่กระทำความผิดได้ หาก
เจ้าของอีเมล์สามารถยืนยันกับผู้ให้บริการอีเมล์ว่า ได้สมัครโดยใช้ชื่ออีเมล์นี้อย่างถูกต้อง
"วิธีการตรวจสอบค่อนข้างยุ่งยาก เพราะผู้ใช้บริการต้องยืนยันข้อมูลแรกที่ได้กรอกลงไปยังใบ
สมัครเพื่อขอให้ปิดอีเมล์หรือขอรหัสผ่านคืน แต่ถ้าหากส่งข้อมูลผิดหรือจำไม่ได้ก็แก้ไขลำบาก ส่วนถ้าเป็นการขโมยรหัสผ่านหรือเจาะข้อมูลของอีเมล์กลางหน่วยงานภาครัฐ ทางกระทรวงไอซีทีสามารถดำเนินการเอาความผิดได้ทันที" ผอ.สำนักกำกับการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศกล่าว
อย่างไรก็ตาม กรณีที่มีผู้เจาะข้อมูลหรือขโมยรหัสผ่านเพื่อกระทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เป็นการกระทำความผิด พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทําความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 ในมาตรา 5 ผู้ใดเข้าถึงในระบบคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันโดยมิชอบ และการเข้าถึงนั้นมิได้มีไว้สำหรับตน ต้องระวาง
โทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และมาตรา 7 ผู้ใดเข้าถึง
ข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันโดยมิชอบ อีกทั้งการเข้าถึงนั้นมิได้มีไว้สำหรับตน ต้องระวาง
โทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ศึกษาปัญหาข้อมูล วิเคราะห์
เรื่อง ไอซีทีเตือนภัย แฮกเกอร์ล้วงอีเมล์
จัดทำโดย
1. นางสาวจันจิรา
จันทร์ทอง
2. นางสาวนันทรัตน์ อ่วมสอาด
3. นางสาวสรารัตน์ เพชรศิริ
4. นายอิทธิเดช
ไทรชมภู
5. นายภากร
สมแสวง
6. นางสาวสาธิยา
เปรื่องเจริญ
7. นายเทพมนต์
ม่วงกล่ำ
1. ชื่อเรื่อง ไอซีทีเตือนภัย
แฮกเกอร์ล้วงอีเมล์
ในปัจจุบันมรการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศกันเป็นจำนวนมาก
ซึ่งในขณะเดียวกันการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ มีทั้งประโยชน์
ร่วมถึงโทษและภัยอันตรายต่างๆ จากการใช้ นายวินัยอยู่สบาย
ผู้อำนวยการสำนักกำกับการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ
กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที)
กล่าวว่าขณะนี้มีผู้ใช้อีเมล์หรือจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ ถูกเจาะข้อมูลอีเมล์ 10
กว่าราย ปัญหาที่เกิดขึ้นจากการถูกแฮกข้อมูล โดยเฉพาะเรื่องการเงิน เป็นปัญหาหนัก
ณ ตอนนี้นายวินัย อยู่สบาย จึงออกมากล่าวบอกถึงโทษผู้กระทำความผิด พ.ร.บ.
ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ต้องจำคุกไม่เกิน 6 เดือน
ปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
2. ระบุผู้เรียน
ผู้เรียน คือ
นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 30 คน
วิชาที่สอน คือ วิชา คอมพิวเตอร์
3. วัตถุประสงค์
3.1.วัตถุประสงค์ทั่วไป
คือ
3.1.1 ให้นักเรียนรู้จักภัยอันตรายจาก E-mail
3.1.2 ให้นักเรียนจักวิธีการป้องกันภัยทาง
E-mail
3.2. วัตถุประสงค์เชิงพฤติกรรม คือ
3.2.1 ให้นักเรียนเปลี่ยนรหัสผ่าน E-mail
3.2.2
นักเรียนสามารถล้างรหัสประวัติการใช้งานทาง Internet ได้
4. การเลือกสื่อที่มีอยู่แล้ว
สื่อที่ใช้ในครั้งนี้ คือ
วิธีการ/กระบวนการใช้งานทาง Internet เป็นสื่อที่มีอยู่แล้ว โดยเปิดตามลิ้งที่ครู
กำหนดให้,คอมพิวเตอร์, E-mail
5. การใช้สื่อ/ขั้นตอนการสอน ดังนี้
5.1 ให้นักเรียนค้นคว้าหาข้อมูล จาก
Internet ในหัวข้อเรื่อง
อันตรายจากการใช้ระบบสารสนเทศไอซีที
5.2
ให้นักเรียนนำข้อมูลที่ได้มาตอบคำถามดังนี้
5.2.1 อันตราย
หรือภัยที่เกิดขึ้นจากการใช้ระบบทางไอซีที มีอะไรบ้าง
5.2.2 วิธีการป้องกัน การใช้ระบบไอซีที
หรือการแฮกข้อมูล มีกี่วิธี
5.3 ครูอธิบายเนื้อหาเมเติม
เกี่ยวกับอันตรายและวิธีการป้องกัน
5.4
ให้นักเรียนออกมานำเสนอหน้าชั้นเรียนถึงอันตรายและวิธีการป้องกันการใช้ระบบไอซีที
5.5 ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปผล
ได้วิธีการป้องกันโดยมีหลักการการตั้งรหัสผ่าน
ต้องตั้งรหัสผ่านเป็นตัวอักษรผสมกับตัวเลขที่คาดเดาได้ยาก และควรมีจำนวนอย่างต่ำ 8
อักษร
6. การกำหนดการตอบสนองของผู้เรียน
ให้นักเรียนฝึกเปลี่ยนรหัสผ่าน E-mail ที่คาดเดาได้ยากเป็นรายบุคคล
ให้นักเรียนฝึกล้างประวัติการใช้งาน
Internet
เป็นรายบุคคล
7. การประเมิน
ให้นักเรียนทดสอบเป็นรายบุคคล
เปลี่ยนรหัสผ่าน E-mail ที่คาดเดาได้ยาก
ให้นักเรียนทดสอบเป็นรายบุคคล ล้างประวัติการใช้งาน
Internet
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น